หาไม่เจอเหรอ หาที่นี่สิ

Custom Search

Thursday, September 15, 2011

Robotic part evolution

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่"Post a comment"ที่ไต้บรรยาย

 นทุกสมรภูมิรบทุกที่ต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องเป็นผู้โชคร้ายที่ต้องตายจากไป เพราะ"ตายในสนามรบเป็นเกียรติของทหาร"
 จากคนที่เรารัก ครอบครัวอันเป็นที่รัก และแสนอบอุ่น

แต่บางครั้งก็มีผู้โชคดีที่รอดมาได้แต่รอดมาไม่ครบ 32 ส่วน เพราะ แขน ขาขาด หูหนวก ตาบอด มีตำหนิตามผิวหนังบ้าง


 การมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นเป็นเรื่องดี     แต่จริงๆแล้วน่ะ    จะบอกอะไรให้นพครับ   คนเรานะแค่เสียนิ้วโป้งเท้าก็เดินลำบากมากแล้ว นี่ยังเสียไปทั้งขาอีก(ในสนามรบเสียแค่นิ้วก้อยมือและเท่าก็คือโชคดีที่สุด)   
บ่อยครั้งที่คนเราเลือกใช้รถเข็นเพื่อทดแทนขาที่หายไปในการดำเนินชีวิต


หากใครคิดว่าการถูกยิงไม่เจ็บและเป็นบาดแผลมันเท่
คิดอีกทีเถิดคนเราเวลาอะไรมากระแทกกระดูกมันเจ็บมากที่สุดเลยแหละครับเพราะในกระดูกมีเส้นประสาทเยอะมากๆ

 มาเข้าเรื่องกันเลยละกันครับ


ปัจจุบันเนื่องจากการแพทย์พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วและทันสมัย การรบสมัยใหม่ก็มีการพัฒนามากขึ้นด้วย 
แต่อย่างไรก็ตามนักรบทุกคนก็หนีไม่พ้นกับดัก   ต่อให้ฝึกมาดีมากแค่ใหน        ถ้าเผลอก็เหยียบกับดักและก็จะสูญเสียอวัยวะ
และเมื่อเป็นเช่นนั้่นคนในสมัยโบราณก็จะหาอวัยวะเทียมมาใส่เสียซึ่งทำให้การใช้ชีวิตดีขึ้นมากกว่าการใช้







เหมือนกันคนนี้เป็นอีกคนหนึ่ง
เอมีส   ซิมสัน (ames Simpson) อายุ 23 เสียขาไปเนื่องจาก ถูกกดระเบิด ที่ หมู่บ้านเฮลแมนด์
ในฐานะหน่วยสไนเปอร์
เขาหนีรอดมาได้พร้อมๆกับขาทั้งสองข้างที่บาดเจ็บสาหัสแต่ใช้เวลารักษาแผล 8 เดือน
เขาบอกว่า เขาอยากเดินได้อีก เนื่องในวันเกิดครบรอบ 24 ปี ในวันที่ 24 กรฎาคม
สิบโทซิมสัน เกิดที่รีดส์(Leeds) เมืองยอร์ค ประเทศอังกฤษ ผู้ได้พบป้ะกับพระเจ้าฟ้าชาย แฮรี ในอัฟกานิสถาน พระองค์ทรงตรัสว่า
                    "ฉันรักอัฟกานิสถาน และฉันจะเสด็จกลับมาอีก ฉันพอพระทัยกับการได้เป็นทหารที่เกือบดีที่สุด    ฉันอาจจะมิได้ดำริความแตกต่าง  หรือปกป้องคนที่อยู่ข้างหลังฉันได้ ฉันจะข้ามศพผู้นั้นไปเสีย"  
                        "ชีวิตของเจ้ายังไม่จบ  มันเป็นแค่การท้าทายครั้งใหม่  ฉันยังคงเป็นฉัน นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ฉันอยากเสด็จออก เพราะเพื่อนเรายังอยู่ที่นั่น  ฉันหวังมาตลอดว่าฉันจะได้เห็นเพื่อนๆของฉันที่นั่นอีก      ทุกอย่างที่ฉันเป็นคือการเป็นทหาร เกิดและตายเยี่ยงทหาร"
จำใว้เถิดเสียขายังมีกว่าลูกตุ้ม"
                     ซิมสันได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจชีวิตมากขึ้นจากความหดหู่    ก่อนที่การลาดตระเวนหลายเดือนให้หลัง      ผู้ก่อการร้ายตาลีบันทำให้เขาต้องพลัดดพรากจากขาทั้งสองข้าง
                      จากนั้นเขาก็ถูกส่งตัวในฐานะผู้ป่วยพิเศษที่ได้รับการทดลองใส่ขาเทียมจักรกล
โอ้โชคดีแฮะซิมสัน


 ใครๆก็เคยคิดแต่ว่าไอ้ของพรรณนี้มันจะราบรื่นเหมือนมือจริงหรือเปล่า..............คงมีแต่ในหนังน่ะแหละ
อย่างเช่นในหนังเรื่องสตาวอร์



 แต่จริงๆแล้วไม่ครับมันเริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ

Sunday, September 11, 2011

ขายปืน Dragunov

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่"Post a comment"ที่ไต้บรรยาย




 Sales Dragunov

ประวัติย่อ
นอฟดูเช (Novduche) ต้องเฝ้ารอจังหวะอย่างอดทนเยี่ยงชายชาติทหาร ภารกิจของเขามีผลต่อความมั่นคงของชาติ ด้วยการฝึกฝนอันหนักหน่วงทำให้เขาผ่านเข้ากองทัพของรัสเซียในฐานะของมือแม่น สไนเปอร์ชั้นแนวหน้า การเหนี่ยวไกแต่ละครั้งมีเป้าหมายในการเด็ดชีพศัตรู ความผิดพลาด 1 ครั้ง จะนำมาซึ่งชีวิตของเพื่อนร่วมรบในทีมเดียวกันที่เป็นตัวล่อผู้ซึ่งแทรกซึม อยู่ในแนวหน้าของสนามรบ

ในมือของเค้าจับมัจจุราชในคราบของอาวุธที่ ทรงอานุภาพยิ่ง ดรากูนอฟปืนอันได้รับการออกแบบโดยชาวรัสเซียที่มีอานุภาพปลิดชีวิตของเป้าหมายด้วย กระสุนเพียงนัดเดียว ความยาวถึง 1.2 เมตรทำให้ นอฟดูเชต้องหาจุดซุ่มซ่อนเพื่อพรางตัวจากการเป็นเป้าหมายของปืนไรเฟิล สไนเปอร์ของศัตรูเช่นเดียวกัน หนึ่งแม็กกาซีนบรรจุกระสุนได้ 10 นัด ที่ยิงติดต่อกันได้ต่อเนื่อง หมายเผด็จข้าศึกได้รวดเร็ว 10 คน
ตาจ้อง ผ่านกระบอกเล็งอย่างตั้งใจ หูฟังรายงานจากหน่วยข่าวอย่างต่อเนื่อง นอฟดูเชวางมือที่ไกปืนเพื่อพร้อมเหนี่ยวกระสุนหากข้าศึกเข้าสู่จุดหมายที่ กำหนดไว้ อากาศหนาวเย็นมิอาจสยบความร้อนรุ่มในใจได้ในขณะนี้ ความหวังของประเทศชาติฝากไว้ในมือของเขา ทันใดนั้นเค้าได้รับรายงานผ่านทางวิทยุสื่อสารให้เตรียมพร้อม เค้าเล็งไปที่อาคารอีกหลังที่อยู่ห่างออกไป 600 เมตร นอฟดูเชถึงกับตกใจหน้าถอดสีซีดยิ่งกว่าไก่ต้ม เพราะเค้าเห็นมือสไนเปอร์บนอาคารนั้นมากกว่า 10 คน พร้อมกับปืนดรากูนอฟ
ตากรรมของนอฟดูเชหลังเสียงของดรากูนอฟ


ดรา กูนอฟ (Dragunov) ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติพิสัยไกลถูกออกแบบโดยชาวรัสเซีย ชื่อว่า “เอฟเกนนี่ เฟโดโรวิช ดรากูนอฟ (Evgeniy Fedorovich Dragunov)” ชื่อของปืนนั้นตั้งโดยให้เกียรติกับผู้ออกแบบว่าดรากูนอหนั่นเอง ระหว่างปีคริสตศักราช 1958 ถึง 1963 สร้างขึ้นมาเพื่อให้สำหรับพลรบไรเฟิลใช้ในทางทหาร เมื่อมีความต้องการใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติของหน่วยรบต่างๆของสหภาพ โซเวียต (ปัจจุบันคือ รัสเซีย) ในปี 1950 ต่อมาในปี 1958 ได้จัดให้มีการประกวดออกแบบซึ่งโจทย์ในคราวนั้นก็คือปืนไรเฟิลที่ทรงอานุภาพ ซึ่งผู้ชนะได้แก่ นายเอฟเกนนี่ เฟโดโรวิช ดรากูนอฟ อีก 10 ปีถัดมา ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลในนามของ “ดรากูนอฟ” (Dragunov) จึงได้ออกประจำการในกองทัพของโซเวียตเป็นต้นมา


Evgeniy Fedorovich Dragunov

เกิดวันที่ 20 กุมภาะพันธุ์, 1920
เสียชีวิตวันที่   4 สิงหาคม 1991 ณ ที่ Izhevsk

Dragunov
รีวิว


ขายปืนดราดูนอฟ 4800 บาท
งานจีนประกับพลาสติก

ระยะยิง 430+- FPS


สนใจติดต่อ 086-3391-400  คลัง
ถ้ามาดูด้วยตนเองไม่ได้ก็
นัดดูของได้ที่ซีคอน
โอนมัดจำมาที่นี่ครับ 232-4-03646-2 ธนาคารบัวหลวง 

Sale P90

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่"Post a comment"ที่ไต้บรรยาย









ประวัติย่อ
ขนาดลำกล้อง : 5.7x28mm
 SS190 น้ำหนัก : ไม่ใส่แม็กกาซีน 2.54 กก. , ใส่แม็กกาซีนพร้อมกระสุน 50 นัด 3 กก. ขนาด : 500 มม. ขนาดลำกล้อง : 263 มม
. ยิงต่อเนื่อง : 900 นัดต่อนาที จำนวนกระสุนในเเม็กกาซีน : 50 นัด
  ฟังก์ชัน: ศูนย์เลเซอร์ , ไฟฉาย ,กล้อง ZOOM ระยะกลาง - ไกล ,ท่อเก็บเสียง ,เเม็กกาซีน ,สายสะพาย




ปืนกลเบา FN P90 ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 โดยใช้เป็นอาวุธปืนในเชิงรับของหน่วยรบทหารหลายต่อหลายหน่วย ยกเว้น หน่วยทหารม้าและทหารปืนใหญ่ เนื่องจากกระสุนที่ปืนกลเบาและปืนพกใช้อยู่ทั่วไปนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทะลุทะลวงเสื้อเกราะของทหารของศัตรูได้ ดังนั้นบริษัท FN Herstal จึงได้พัฒนากระสุนที่อำนาจทะลุทะลวงขึ้นมาใหม่ นั่นคือ SS 190 ปืนกล FN P90 เป็นปืนแบบ Bullpup ใช้กระสุนขนาด 5.7x28 มม. ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Delayed blowback, closed breech มีความจุ 50 นัด อัตราการยิง 900 นัด/นาที ออกแบบโดยบริษัท Fabrique Nationale de Herstal แห่งเบลเยี่ยม ในปัจจุบัน FN P90 ถูกใช้เป็นปืนประจำการอยู่ในหลายๆประเทศทั่วโลกอาทิเช่น หน่วยรบพิเศษของประเทศซาอุดิ อาระเบีย เปรู และหน่วยรบพิเศษของกองทัพไทย โดยบริษัท FN เป็นผู้จัดจำหน่าย รีวิว



 Feet Per Secand(F.P.S.).  38X+- นำไปเล่นได้ทุกสนามเพราะไม่ 
                                    โหดมากจนเกินไป
ราคา  5500 บาท ลดแล้วเนื่องจากฤดูฝนเหลือ  5200 บาท
สนใจติดต่อ 086-3391-400  คลัง
ถ้ามาดูด้วยตนเองไม่ได้ก็นัดดูของได้ที่ซีคอนและ โอนมัดจำมาที่นี่ 232-4-03646-2 ธนาคารบัวหลวง 

Sale AK-47

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่"Post a comment"ที่ไต้บรรยาย







งานจีนไม้แท้นัดดูของได้


ประวัติ
AK-47 ปืนยอดนิยมของผู้ร้าย
- เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าปืนเล็กยาวเป็นอาวุธประจำกายของทหารราบ ทหารต้องพึ่งพามันได้ยามเข้าสมรภูมิ ไม่ว่าภูมิประเทศ และภูมิอากาสจะเป็นอย่างไร กลไกของปืนต้องทำงานได้ดีไม่ติดขัด ความขัดข้องแม้เพียงน้อยนิดหมายถึงชีวิตของทหารผู้ถือปืนกระบอกนั้น
- หากมีใครตั้งคำถามว่ามีปืนเล็กยาวแบบนั้นอยู่ในโลกหรือเปล่า คำตอบก็คือมี และมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947
แล้วในชื่อ AK-47
จากชื่อเต็ม Avtomat Kalashnikova obraztsova:goda 1947
ในชื่ออันคุ้นเคยว่า “อาก้า”


Mikhail Timofeevich Kalashnikov
- ปืนเล็กยาวจากฝีมือการออกแบบของนายทหารชาวรัสเซียผู้ใช้นามสกุลของตนเป็น ชื่อย่อของปืน ร้อยเอกมิคาอิล คาลาชนิคอฟ ก่อนจะแตกรุ่นออกไปมากมาย และเป็นที่นิยมใช้ในกองทัพทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
- ประวัติศาสตร์หน้าแรกของอาก้าเริ่มขึ้นในดินแดนของศัตรูเมื่อสงครามโลกครั้ง ที่ 2 จากการวิจัยของกองทัพบกเยอรมันที่พบว่าระยะยิงปืนเล็กยาวหวังผลได้ดีที่สุด คือ 300 เมตร ตรงนั้นคือระยะไกลที่สุดที่ทหารมองเห็นด้วยตาเปล่า และสามารถทำลายเป้าหมายได้ด้วยอาวุธประจำกาย นำกระสุนเข้าสนามรบได้อย่างพอเพียง เพื่อให้ใช้ปืนได้ง่ายมันต้องมีระบบการทำงานไม่ซับซ้อน มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวน้อยที่สุดเพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษาในสนาม
- ผลการวิจัยของเยอรมันทำให้ต้องรื้อแนวความคิดในการสร้างอาวุธประจำกายทหาร ราบใหม่ทั้งหมดรวมถึงกระสุน เพื่อให้ยิงหวังผลได้ในระยะ 300 เมตร
กระสุน เดิมขนาด 7.92x57 ม.ม. ของเมาเซอร์ที่ใหญ่ และหนักเกินความจำเป็น
จึงถูก ตัดท้ายให้สั้นลงเป็น 7.92x33 ม.ม. มีชื่อเล่นว่า “คูร์ซ” (Kurz)
ผลพลอย ได้คือราคาถูกลง และผลิตได้มากกว่า


MP44 ต้นแบบของAK47

- ผลการวิจัยของเยอรมันทำให้เกิดปืนเล็กยาวเพื่อรองรับแนวความคิด และกระสุน “ชทวร์มเกแวร์ 44” (Sturmgewehr 44 ชื่อเดียวกับ MP44) โดยการนำข้อดีของปืนอีกสองสัญชาติมาดัดแปลงคือปืน เชอิ-ริก็อตตี (Cei-Rigotti) ของอิตารี และเฟโดรอฟ อัฟโตมัต (Fedorov Avtomat) ของรัสเซียคู่สงครามในขณะนั้น แล้วผลิตออกมามากในปี ค.ศ. 1944 เพื่อส่งเข้าแนวรบด้านตะวันออกที่ตนกำลังเพลี่ยงพล้ำให้ยันการรุกของกองทัพ แดง
- ถึงจะได้ชื่อว่าผลิตออกมามากสร้างได้เร็วจาการปั๊มโลหะขึ้นรูป แต่ StG44 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของสงครามได้ เยอรมันแพ้สงครามในปีถัดมาก็จริง แต่รัสเซียได้รับผลกระทบจากปืนแบบนี้ไปเต็มๆเพราะถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดรวม ทั้งที่ยึดได้อีกมาก
- โลกคงไม่รู้จัก มิคาอิล คาลาชนิคอฟ หากเขาเสียชีวิตในสมรภูมิเมืองไบรยันสก์ ปราการขวางกองทัพเยอรมันสู่กรุงมอสโกที่ทหารของกองทัพแดงถูกสังหารถึง 80,000 นาย และอีก 50,000 นาย ตกเป็นเชลย
- คาลาชนิคอฟได้รับบาดเจ็บที่นี่ระหว่างทำหน้าที่ผู้บังคับรถถังในกองพลยาน เกราะที่ 12 ด้วยยศสิบเอก และการเผชิญหน้ากับเยอรมันด้วยยานเกราะ และบางครั้งก็ปะทะกันแบบทหารราบ คาลาชนิคอฟจึงเข้าใจดีถึงความต้องการอาวุธประจำกายของทหาร
- เขาเบนเข็มจากทหารในหน่วยรบสู่นักออกแบบ และพัฒนาอาวุธหลังออกจากโรงพยาบาล ด้วยความคิด่าจะนำประสบการณ์ และความรู้ของตนมาช่วยกองทัพ ให้ทหารมีอาวุธดีๆ ใช้และกองทัพแดงไม่เป็นรองใคร
- อาวุธประจำกายพลิกประวัติศาสตร์ฝีมือ มิคาอิล คาลาชนิคอฟ จึงเกิดขึ้น จากแนวความคิดให้ตอบสนองความต้องการของทหารราบมากที่สุด ต้องผลิตได้เร็วมาก ยิงแม่นพอประมาณด้วยกระสุน 7.62x39 ม.ม. ที่เล็กกว่าแต่ให้แรงขับมากกว่ากระสุนต้นแบบของเยอรมันเล็กน้อย

- ทหารถอดทำความสะอาดได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ ใช้งานได้ในทุกภูมิประเภท และภูมิอากาศ
- เมื่อปืนเล็กยาว และปืนกลมือในขณะนั้นต่างก็มีข้อดีแตกต่างไป ปืนของ คาลาชนิคอฟ จึงเกิดการนำข้อดีของปืนเหล่านั้นมารวมกันด้วยเดือยเหล็กลำกล้องคู่จาก M1 “กาแรนด์” (Garand) ของสหรัฐ เรือนเครื่องลั่นไก และกลไกนิรภัยจากปืนเล็กยาวเรมิงตันโมเดล 8 และระบบการทำงานด้วยแก๊ซกับรูปแบบการวางเรียงชิ้นส่วนจาก StG44 ของเยอรมัน
- ระบบทั้งหมดถูกนำมายำโดยไม่ต้องคิดค้นอะไรใหม่ให้มากความ
- ถึง คาลาชนิคอฟ จะบอกว่าไม่ได้เอาแนวคิดของเยอรมันมาใช้ (เพราะตอนนั้นเป็นศัตรูกัน ใครจะไปยอมรับว่าเป็นปืนของข้าศึกดีกว่าจนต้องลอกเลียน) แต่หลักฐานที่ปรากฏนั้นเป็นไปคนละทิศละทาง
- AK-47 คล้ายคลึงกับ StG44 เหมือนปืนแบบเดียวกันแต่แตกรุ่น ด้วยพานท้ายไม้ลาดต่ำโครงปืนเหล็กปั๊มขึ้นรูป ซองกระสุนโค้งเพื่อจุกระสุนได้มาก ทำงานด้วยแรงดันแก๊ซผลักลูกเลื่อนถอยหลังคัดปลอก มีคันบังคับการยิงอยู่ด้านขวาของตัวปืนเหมือนกัน
- ทั้งที่ปืนเล็กยาวของค่ายตะวันตก และสหรัฐฯต่างวางตำแหน่งกึ่งอัตโนมัติ (semi) ให้เลือกยิงได้ก่อนอัตโนมัติ (auto) แต่คาลาชนิคอฟกลับเลือกระบบของการยิงปืนตนเองกลับข้างกัน ให้เลือกยิงอัตโนมัติได้ก่อนผลักสวิชท์ไปยิงกึ่งอัตโนมัติ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้กลุ่มกระสุนกดหัวข้าศึกไว้ก่อนแล้วจึงเปลี่ยนระบบการ ยิง
- เป็นการเลือกระบบการยิงที่ฉลาด และเป็นไปตามสถานการณ์จริง
- เมื่อเกิดเหตุการณ์ขับขันทหารมักเลือกยิงอัตโนมัติให้กลุ่มกระสุนกดหัวฝ่าย ตรงข้ามไว้ก่อนจะเข้าที่กำบัง และเล็งประณีตต่อด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ
- แนวคิดเริ่มต้นของ AK-47 เกิดขึ้นในปลายปี ค.ศ. 1941 จริง แต่กว่าจะพัฒนา และทดสอบจนพอใจได้ ก็ล่วงถึง ค.ศ. 1944 กว่าจะชนะการประกวดให้เป็นปืนในโครงการทดลองของกองทัพโซเวียตได้ต้องใช้เวลา อีกสองปี และถัดมาอีกปีคือ ค.ศ. 1947
- มันจึงได้เข้าประจำการในฐานะอาวุธประจำกายทหารบางหน่วย ก่อนจะประจำการในฐานะอาวุธพื้นฐานของทหารราบทั้งหมดของโซเวียตในปี ค.ศ. 1949 ตามด้วยกลุ่มประเทศกติกาสัญญาวอร์ซอร์ และบริวาร
- มีให้เลือกทั้งแบบพานท้ายไม้ปกติสำหรับหน่วยรบภาคพื้นดิน และพานท้ายเหล็กพับเก็บได้เพื่อความคล่องตัวสำหรับทหารประจำยานรบ และหน่วยรบพิเศษ ก่อนจะแตกรุ่น และแบบออกไปปอีก
- ความโดดเด่นของ AK-47 นอกจากที่กล่าวข้างต้น คือมันราคาถูก ถอดรื้อทำความสะอาดชิ้นส่วนง่ายแม้ทหารสวมถุงมือ เพื่อตอบสนองความต้องการของทหารโซเวียตที่ประจำการในเขตอากาศหนาวของรัสเซีย และขั้วโลกเหนือส่วนใหญ่


รีวิว



 
Feet Per Secand(F.P.S.).  39X+- นำไปเล่นได้ทุกสนามเพราะไม่ 
                                    โหดมากจนเกินไป
ราคา  5800 บาท



สนใจติดต่อ 086-3391-400  คลัง
ถ้ามาดูด้วยตนเองไม่ได้ก็นัดดูของได้ที่ซีคอนครับ โอนมัดจำมาที่นี่ครับ 232-4-03646-2 ธนาคารบัวหลวง 

Kurosho-black castle team Headline Animator